คำอธิบาย
Hygrometer
HygrometerHygrometer ช่วงอุณหภูมิที่สามารถวัดได้: -50~ +70 °C (-58~ +158°F)
- ช่วงความชื้นที่สามารถวัดได้: 10%-99% RH
- ความละเอียด (Resolution): temperature: 0.1°C(0.1°F), , humidity 1% RH
- ความแม่นยำ (Accuracy): temperature: +-1 °C (1.8°F), humidity: +-5% RH(40%-80%)
- Power supply: 1.5V (AAA size) x 1
- น้ำหนัก: 125กรัม
- Storage condition: -20°C~60°C, 20~80%RH
- แสดงผลอุณหภูมิ ภายใน ภายนอก ความชื้นและเวลา พร้อมๆกัน ได้
- สามารถบันทึกค่าสูงสุดจากการวัด
- เลือกรูปแบบการแสดงผลเวลาได้
- สามารถแสดงผลอุณหภูมิ แบบ Celsius และ Fahrenheit
- มีฟังชั่นการตั้งปลุก
- มีเวลา และปฏิทิน แสดงผลวันที่
Features:
- Large LCD display, multi-function.
- Indoor & outdoor temperature display, indoor humidity display and time display.
- Memory of MAX & MIN measuring value.
- 12 hour / 24 hour displaying system selectable.
- Degree C & F unit selectable.
- Clock, Date & Calendar function (month and date).
- Everyday alarm function.
- Desk-top placing or Wall Hanging.
- Low power consumption.
- High stability & accuracy.
Specification:
- Device color: White
- Temperature range: Indoor & Outdoor -50 ~ +70 degree (-58 ~ +158F)
- Humidity range: 10% ~ 99% RH
- Power supply: 1.5V*1 (AAA size)
- Device dimension: 10.5*9.8*2.4cm
- Package size: 18*13*4cm
ความชื้นอากาศในวันหนึ่งๆ จะเปลี่ยนแปลง โดยมีความชื้นอากาศสูงในเวลากลางคืนและตอนเช้า เพราะอุณหภูมิของอากาศต่ำจึงรับไอน้ำในอากาศได้น้อย ส่วนในตอนกลางวันอุณหภูมิของอากาศสูงขึ้นจึงรับไอน้ำได้อีกมากหรืออาจกล่าวได้ว่า ถ้าความชื้นในอากาศมีมาก การระเหยของน้ำจากแหล่งต่างๆ จะน้อย เสื้อผ้าที่ตากจะแห้งช้า หรือรู้สึกเหนียวตัวและอึดอัด แต่ถ้าความชื้นในอากาศมีน้อยหรืออากาศแห้ง จะรู้สึกเย็นสบาย เสื้อผ้าแห้งง่ายดังนั้นแล้วความหมายของคำต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมีดังนี้
1. ความชื้นอากาศ (Humidity) คือ ปริมาณไอน้ำที่ปะปนอยู่ในอากาศ ซึ่งได้มาจากการระเหยของแหล่งน้ำต่างๆ
2. อากาศอิ่มตัว (Saturated Vapour) คือ อากาศที่มีไอน้ำอยู่ในปริมาณเต็มที่ และรับไอน้ำจากที่อื่นอีกไม่ได้แล้วอากาศที่มีอุณหภมิสูงจะรับไอน้ำได้มากกว่าอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำ ถ้าอากาศอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถรับไอน้ำได้อีก แสดงว่าอากาศขณะนั้นอิ่มตัวด้วยไอน้ำ เรียกสภาวะนี้ว่า อากาศอิ่มตัวด้วยไอน้ำ หรืออากาศอิ่มตัว ซึ่งเป็นสภาวะที่อากาศมีความชื้นมากที่สุด
อากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร ณ อุณหภูมิต่าง ๆ กัน จะรับไอน้ำได้ดังนี้
ที่ 10 องศาเซลเซียส อากาศจะสามารถรับปริมาณไอน้ำได้มากที่สุดประมาณ 9.3 กรัมต่อลบ.ม.
ที่ 20 องศาเซลเซียส อากาศจะสามารถรับปริมาณไอน้ำได้มากที่สุดประมาณ 17.5 กรัมต่อลบ.ม.
ที่ 30 องศาเซลเซียส อากาศจะสามารถรับปริมาณไอน้ำได้มากที่สุดประมาณ 30.5 กรัมต่อลบ.ม.
3. เครื่องมือที่ใช้วัดความชื้นของอากาศ เรียกว่า ไฮกรอมิเตอร์ โดยที่ไฮกรอมิเตอร์ที่นิยมใช้กัน จะประกอบด้วย เทอร์มอมิเตอร์ 2 อัน อันหนึ่งเป็นเทอร์มอมิเตอร์ธรรมดา เรียกว่า เทอร์มอมิเตอร์กระเปาะแห้ง ส่วนอีกอันหนึ่งเรียกว่า เทอร์มอมิเตอร์กระเปาะเปียก ซึ่งเป็นเทอร์มอมิเตอร์ธรรมดาหุ้มกระเปาะด้วยผ้ามัสลินมีด้ายผูกโยงไปยังแก้วน้ำ ให้น้ำซึมมาตามด้ายดิบจนถึงผ้ามัสลิน ถ้าในอากาศมีไอน้ำน้อย หรืออากาศแห้ง น้ำที่ผ้ามัสลินจะระเหยออกมามาก ในการระเหยของน้ำต้องใช้ความร้อนจำนวนหนึ่ง ซึ่งดึงมาจากภายในเทอร์มอมิเตอร์ ทำให้อุณหภูมิขอเทอร์มอมิเตอร์กระเปาะเปียกลดลง จึงอ่านค่าได้ต่ำกว่าเทอร์มอมิเตอร์กระเปาะแห้ง แต่เมื่ออากาศมีไอน้ำมาก หรือมีความชื้นสูง อากาศโดยรอบจะไม่สามารถรับไอน้ำไว้ได้อีก น้ำที่ผ้ามัสลินจึงไม่มีการระเหยหรือระเหยได้น้อยมาก ค่าที่อ่านได้จากเทอร์มอมิเตอร์ทั้ง 2 จึงใกล้เคียงกัน
4. วิธีวัดค่าความชื้นของอากาศ วัดได้ 2 วิธีคือ
4.1 ความชื้นสัมบูรณ์ (Absolute Humidity) คือ อัตราส่วนระหว่างมวลของไอน้ำในอากาศกับปริมาตรของอากาศนั้นหน่วยวัดความชื้นสัมบูรณ์คือ
4.2 ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity) คือ ปริมาณเปรียบเทียบระหว่างระหว่างมวลของไอน้ำที่มีอยู่จริงในอากาศขณะนั้นกับมวลของไอน้ำในอากาศอิ่มตัวที่อุณหภูมิและปริมาตรเดียวกัน นิยมคิดเป็นร้อยละณ อุณหภูมิหนึ่ง อากาศสามารถรับไอน้ำไว้ได้จนถึงขีดที่อากาศไม่สามารถรับไอน้ำไว้ได้อีก เรียกว่า อากาศอิ่มตัวด้วยไอน้ำ (ความชื้น 100%) ตามปกติจำนวนไอน้ำจริงๆ ที่มีอยู่ในอากาศจะมีน้อยกว่าจำนวนไอน้ำเมื่ออากาศอิ่มตัว